เลสิกและ PRK ต่างกันอย่างไร วิธีไหนดีกว่ากัน


เลสิกเป็นการแก้ไข สายตา โดยการยิงเลเซอร์เพื่อปรับความโค้งของกระจกตา โดยการเปิดกระจกตาแล้วยิงเลเซอร์ เพื่อปรับกระจกตา ส่วนการทำ PRK เป็นการแก้ไขสายตา โดยการลอกผิวกระจกตาชั้นนอกสุด ออกไปก่อนที่จะใช้เลเซอร์ปรับแต่งเนื้อเยื่อกระจกตาด้านนอกให้ได้ความโค้งที่ต้องการ เพื่อการมองเห็นภาพที่ชัดเจน เป็นวิธีการรักษาสายตาอย่างถาวร  แต่การทำ PRK จะใช้เวลานานกว่าในการสมานแผล มีความระคายเคืองตาหลังทำมากกว่า และต้องมาพบแพทย์เพื่อติดตามดูอาการหลังทำบ่อยกว่า วิธีนี้จะพบภาวะตาแห้งหลังทำน้อย อีกทั้งยังเหมาะสมกับผู้ที่มีความจำเป็นทางวิชาชีพบางอาชีพ เช่น  นักบิน เป็นต้น

เราจะเลือกอย่างไรระหว่าง PRK กับ เลสิก

ทั้งสองอย่างมีทั้งข้อดีและข้อเสียจุกษุแพทย์จะเป็นผู้พิจารณาตามความเหมาะสมเป็นรายๆ ไป เช่น สายตาสั้น ไม่มาก และมีอาการตาแห้ง และกระจกตาบาง ต้องการฟื้นตัวเร็ว เหมาะกับ PRK มากกว่าเลสิก ในขณะที่สายตาสั้นปานกลาง ถึงมาก และต้องการฟื้นตัวเร็ว เหมาะกับเลสิคมากกว่า ภาวะแทรกซ้อนและผลเสียที่อาจตามมาระหว่างการทำ PRK เมื่อเทียบกับการติดเชื้อในตาจากการใส่คอนเทคเลนส์ พบว่าการทำเลสิกมีโอกาสติดเชื้อน้อยกว่า  10 เท่า โอกาสการสูญเสียการมองเห็นน้อยมาก การแก้ไขสายตาขาดหรือเกินพบได้น้อยมาก และสามารถแก้ไขได้ ส่วนการมองเห็นดวงไฟในเวลากลางคืนนั้น พบได้ในช่วงสามเดือนแรก และจะค่อยๆ ลดลง ยิ่งสมัยนี้มีเทคโลยีมากมายที่จะมาช่วยให้การทำเลสิคมีประสิทธิภาพช่วยลดโอกาสเสี่ยงในการติดเชื้อลดลง สามารถมองเห็นได้เลยหลังจากการทำเลสิค

การทำเลสิก ไม่ใช่ใครก็สามารถทำได้ ก่อนการผ่าตัด จะมีการตรวจเช็คสุขภาพตาของคุณก่อนว่ามีความพร้อมที่จะทำเลสิค หรือไม่ เป็นผู้ที่สุ่มเสี่ยงต่อการเป็น ต้อลม ต้อเนื้อ ต้อกระจก โรคต่างๆ ทางสายตาหรือไม่ ตรวจวัดความหนาของกระจกตา คุณหนาพอไหม ซึ่งบางคนอาจจะทำไม่ได้ นอกจากความปลอดภัยแล้ว สภาพดวงตา ความหนาของกระจกตา ระดับความผิดปกติของสายตาสั้น บางคนสายตาสั้นเป็นพัน อาจจะรักษาโดยการทำเลสิกได้ แต่ได้หมด อาจจะมีค่าสายตาที่หลงเหลืออยู่

หากท่านใดที่สนใจอยากทำเลสิก เราขอแนะนำ ศูนย์เลสิค Laser Vision ด้วยองค์ประกอบทั้งในด้านเครื่องมืออันทันสมัยและแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ รวมถึงประสบการณ์ที่มีมาอย่างยาวกว่า 19  ปี ภายใต้มาตรฐานการรักษา เนื่องจากเทคโนโลยีที่ Laser Vision เลือกใช้นั้น ถือเป็นเทคโนโลยีที่ทันสมัย และช่วยประหยัดเนื้อเยื่อกระจกตามากกว่าสถานพยาบาลอื่น จึงเพิ่มโอกาสให้กับคนไข้ที่มีสายตาผิดปกติระดับสูง สามารถทำการรักษาสายตาผิดปกติด้วยวิธีเลสิคได้มากขึ้น